เคยฟังเพลง"100เหตุผล" ไหมครับ????? ^^

เหตุผลของการอยู่ต่อมีแค่หนึ่งเดียว
เหตุผลของการจากไปมีเป็นร้อยข้อ...
หรือคิดง่ายๆ ตอนจะรักกันมีเหตุผลนิดเดียว หรือไม่มีเลย
แค่ถูกชะตา เดินชนกันแล้วหนังสือตก ช่วยเก็บ แล้วสบตากัน ก็รักกันแล้ว
แต่เวลาจะเลิกกันนี่ซิ
เหตุผลถาโถมมาจากไหนก็ไม่รู้ มากมายจนถังสังฆทานอายม้วน
แถมเหตุผลที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเหตุผลได้ ก็กลับอ้างมาเป็นเหตุผล
เรื่องเล็กๆเช่นทอดไข่เค็มเกินไป ก็สร้างปัญหาใหญ่มานักต่อนัก
ถ้าเปรียบเทียบบัญญัติไตรยางศ์ง่ายๆ 100-1


เทียบดูแค่นี้ เห็นภาพอย่างนี้ คุณคิดว่าการครองรักครองเรือนเป็นเรื่องง่ายไหม?
ผมเคยบอกหลายครั้ง เขียนอีกหลายหนว่า ต้องใช้สารพัดศาสตร์ในการรักษาความสัมพันธ์หลายหลายแขนงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
ให้อภัย เสียสละ อดทน อดกลั้น อดออม มีน้ำใจ ให้เกียรติ การเงิน การเมือง รวมทั้งที่ขาดไม่ได้ก็คือ การมุ้ง
และอีกสารพัดสารพันที่ต้องขุดเอามาใช้เพื่อเป้าหมายมีปลายทางใช้ชีวิตร่วมกัน...
ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งได้ ฝ่ายหนึ่งอาจต้องเสีย
ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งสบาย ฝ่ายหนึ่งอาจลำบาก
ในขณะฝ่ายหนึ่งสนุก อีกฝ่ายอาจรอด้วยความห่วงใย
หลังจากการตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ ลูกตุ้มสมดุลของทุกสรรพสิ่งบนโลก จะถูกฉีกกฎไปอย่างไม่มีชิ้นดี
ลูกตุ้มสมดุลระหว่างอยู่ต่อกับเลิกรา ไม่มีทางที่สูสีกัน...
ยิ่งโลกเปิดช่องให้สื่อสารสื่อถึงกันได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว ปัญหาชีวิตคู่ถูกพาเข้าสู่กระแสรับรู้ของผู้อื่นง่ายมากขึ้น
สามีเลว ภรรยาไม่ดี ถูกเปรียบเทียบกับเทพบุตร เทพธิดาบนบอร์ด
หลายคู่จึงหลุดวงโคจรกลับไปพบสิ่งดีเลวตามเหตุและผลของแต่ละคน...
ที่เราควรตะหนักรู้ให้มาก นั่นคือ ชีวิตคู่ไม่ได้จบลงตอนแต่งงานหรือครองคู่เหมือนในละคร
แต่มันแค่เพิ่งเริ่มต้นเหมือนเด็กทารกเพิ่งลืมตาออกมาดูโลกต่างหาก...
ก้าวเดินต่อไปแห่งการรักษาสัมพันธ์ เหนื่อยหนักชนิดที่คุณต้องคาดไม่ถึง...
หลายคนเข้าสู่ช่วงนี้ทั้งที่ยังขาดความพร้อมที่อย่าว่าแต่จะเอาชีวิตคู่ให้รอด
เพราะแม้ลำพังตัวเองก็ยังเอาไม่รอด...
ดังนั้นการหงายหลังขาชี้ฟ้าจึงไม่ยากเกินการคาดเดา


แล้วเราจะเตรียมตัวเช่นไร?????????
คำถามนี้ผมก็ไม่กล้าตอบเชิงรูปธรรม
เพราะคำตอบจริงๆมันเป็นได้แค่ นามธรรมที่ว่า "ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง"
ไม่มีอะไรแน่แท้แน่นอน...
ต่อให้คู่ที่พร้อมที่สุด เท่าที่โลกนี้จะคัดสรรบรรจงจัดให้เป็นคู่แท้ที่หากันจนเจอ
ผมว่าก็ไม่มีใครตีตรารับประกันว่าจะไปกันรอด...
ยิ่งคนใหญ่ คนโต ไฮโซ ดารา ซุปตาร์มีระดับ
แท้จริงก็คือคนธรรมดาแบบพวกเรา แถมมีสิ่งเร้าล่อใจมากกว่าอีกหลายเท่า
โอกาสที่ลูกตุ้มจะไม่สมดุลยิ่งจะมีมากขึ้นเป็นเงาของความมีชื่อเสียง...
ต้องเข้าใจให้ถ่องแท้ว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆในโลกล้วนธรรมดา
ยอมรับที่จะอยู่กับผลของมันด้วยสติ
ไม่มีใครไม่เสียใจเพราะอกหักรักคุด
แต่ถึงอย่างไรในที่สุด ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป
อย่าหยุดชีวิตไปพร้อมกับความรักที่หลุดหาย
เสียคนหนึ่งที่ไม่รักไป แต่ได้รับรู้ความรักที่แท้จริงของคนในครอบครัว คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม...
ต้องลุกให้ได้ ยืนขึ้นให้ไว
ชีวิตต้องก้าวไปเจอสิ่งใหม่ๆ หรือความรักครั้งใหม่...
จมทุกข์กับความรักได้ แต่อย่าจมนานจนเสียโอกาสเปิดรับโอกาสดีๆ...
ถ้ามีพรขอได้ ขอให้ดูแลตัวเองให้ได้ด้วยการงานการเงิน
เพราะอดรักนั่นไม่ตาย
แต่ถ้าอดข้าวนี่อาจตายได้จริงๆ...
เมื่อดูแลตัวเองได้สบายแล้ว การมีรักจะลดเงื่อนไขลงไปมาก เมื่อนั้นโอกาสมีความสุขก็จะมากตามไปด้วย
และเมื่อเราพร้อมดูแลตัวเองได้แล้ว เวลาเจอด้านลบแห่งรัก เราก็มีพื้นฐานที่ดีรองรับ รอวันที่ดอกรักดอกใหม่จะบานในใจให้หัวใจแช่มชื่น...
บางคนคร่ำครวญว่า ถ้ารอแล้วไม่มีดอกรักบานล่ะ????
ตอบว่า แล้วคุณกลัวอะไรล่ะ????
สุดยอดแห่งความสุขชนิดหนึ่งของโลก คือการอยู่กับตัวเองอย่างมีสติ มีอิสรเสรีในการใช้ชีวิต
มีหนังสือดีๆให้คุณได้อ่าน
มีที่ท่องเที่ยวสวยงามให้คุณออกเดินทางไปค้นหา...
สองสิ่งนี้จะทำให้คุณเติบโตอย่างแท้จริง
เป็นการเติบโตอย่างเข้าใจโลก เข้าใจชีวิต...
เมื่อนั้น ชีวิตคุณจะมีมุมมองเปลี่ยนไป
ความสุขจะก่อตัวช้าๆขึ้นข้างในใจแบบมีสติ
เมื่อมีสติ ย่อมมีปัญญา จนเห็นว่า ความว้าเหว่ที่คุณกลัวนั้น ไม่มีอยู่จริง
เรื่องจริงก็คือ หัวใจจะกลับ อิ่มเอมด้วยความสุข ที่พร้อมมอบให้กับตัวเอง และยังมีเหลือแบ่งปันเป็นกำลังใจ สู่คนรอบข้างได้อย่างสวยงามอีกด้วย
แบบนี้ต่างหาก คือ สิ่งที่เราควรมี หากเราถูกกำหนดให้ต้องยืนตรงข้ามกับความรัก...
โชคดีอย่างมีสติครับ





Credit:นกรู้ จู้ฮุกกรู
นุสนธิ์บุคส์
Share on Google Plus

About Unknown

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 comments :

Post a Comment